ตาปลา คือ ผิวหนังซึ่งหนาตัวขึ้นมาเนื่องจากการกดทับหรือการลงน้ำหนักของเท้าบริเวณนั้นซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดตรงนิ้วเท้าเนื่องจากรองเท้าคับเกินไป หรือในบางกรณีก็อาจเกิดขึ้นที่ฝ่าเท้าได้เช่นกัน โดยอาการตาปลานี้ เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงนะคะ เพราะนอกเหนือจากจะทำให้เท้าของเราดูไม่สวยแล้ว ยังทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของเรายากลำบากขึ้นอีกด้วย แถมยังต้องมาทนกับการเจ็บปวดจากเจ้าตาปลานี้อีก แหม มันช่างเป็นอาการที่ไม่คุ้มเสียจริงๆ นะคะ
- อาการของโรคตาปลา
ตำแหน่งที่เกิดตาปลาจะมีอาการปวด บวมแดง และเมื่อถูกกด หรือไปโดนจะมีอาการเจ็บร่วมด้วย
สาเหตุของการเกิดโรคตาปลา
- ใส่รองเท้าแคบเกินไป
- นิ้วเท้าผิดรูป
- การยืนนาน
- คนอ้วนทำให้น้ำหนักเกิดการกดทับ
- การเดินที่ผิดท่า
- การผ่าตัด
- นิ้วหัวแม่เท้าผิดรูป
- ตะเข็บรองเท้า
สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้มีผลกระทบจนเกิดเป็นโรคตาปลา
- ปัญหาหน้าเท้ามีแรงกดมาก เพราะกล้ามเนื้อ น่อง ตึง ไม่สามารถกระดกเท้าขึ้นเวลาเดินได้มากพอ น้ำหนักจึงกดลงหน้าเท้ามากเกินไป
- กล้ามเนื้อหน้าแข้งด้านหน้าอ่อนแรง ทำให้กระดูกเท้าขึ้นจากพื้นได้ไม่มากพอ
- ข้อเท้าบิดออกมากเกินไป ทำให้การลงน้ำหนักที่ฝ่าเท้ามาก
วิธีการป้องกันการเกิดโรคตาปลา
อันดับแรกให้หลีกเลี่ยงรองเท้าหน้าแคบ และหมั่นทาครีมให้ความชุ่มขึ้นที่เท้าวันละ 2 ครั้ง รวมถึงเลือกรองเท้าที่มีแผ่นรองเท้าเพื่อลดแรงกดที่เท้าหากเป็นตาปลาที่เท้า
ทั้งนี้ ควรเลือกรองเท้าที่ใส่ให้พอดีกับเท้า หรือเลือกสวมใส่รองเท้าสุขภาพไปเลย เพราะรองเท้าเพื่อสุขภาพจะมีพื้นรองเท้าที่นิ่มแต่ยืดหยุ่น ไม่รัดแน่นเกินไป หรือหลวมเกินไป อีกทั้งรองเท้าเพื่อสุขภาพยังช่วยลดแรงกด ลดแรงกระแทก และช่วยซัพพอร์ตเท้าของเราได้เป็นอย่างดี